0

แมวพันธุ์..สฟิงซ์

image บาง ครั้งใครๆก็เรียกแมวพันธุ์สฟิงซ์ว่า แมวไม่มีขน แม้ว่าอันที่จริงแล้วมันมีขน ปกคลุมอยู่บางๆ โดยจะเห็นได้ชัดเจนที่ปลายลำตัวทั้งสองข้าง แมวไม่มีขนตัวแรกปรากฎ ที่แคนาดาในพ.ศ. 2509 ต่อมาจึงได้กลายเป็นแมวพันธุ์หนึ่ง โดยใช้แมวขนสั้นของอเมริกา มา ผสม สมาคมผู้เลี้ยงแมวส่วนใหญ่ไม่ยอมรับแมวพันธุ์นี้ และเป็นพันธุ์ที่มีปัญหาถกเถียงกันอยู่ ในบ้านเราเคยมีข่าวเป็นที่ฮือฮากันมาแล้วสำหรับแมวพันธุ์นี้
จากข่าวสดรายวัน วันที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7132
คาดสัตว์ประหลาด แมวสฟิงซ์ ตัวละสองหมื่นห้า
image
" ปศุสัตว์"รุดพิสูจน์ซาก ชาวบ้านแห่ดูเนืองแน่น แมว? - ซาก สัตว์หน้าตาพิลึกซึ่งชาวบ้านวังสามหาบ จ.หนองบัวลำภู พบและนำมาจุดธูปบูชา ล่าสุดปศุสัตว์รุดมาตรวจ โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นแมวพันธุ์สฟิงก์(ภาพเล็ก) เพราะลักษณะคล้ายกันมาก โดยคนที่พบยืนยันว่าจะเก็บเอาไว้ ปศุ สัตว์อำเภอนาวัง จ.หนองบัวลำภู พิสูจน์ซากสัตว์ประหลาดสุดฮือฮา ตัวเล็กพอๆ กับแมว ส่วนหัวเหมือนค้างคาว แต่ไม่มีปีก ไม่มีขน ทั้งยังมีหางกับเท้าคล้ายสุนัข เบื้องต้นเชื่อเป็นสุนัขชิวาว่าไม่มีขน หรือแมวพันธุ์ "สฟิงซ์" ที่เศรษฐีนิยมเลี้ยงเพราะราคาแพงตัวละหลายหมื่นบาท เจ้าของอาจเป็นชาวต่างชาติ บังเอิญแมวตัวนี้หนีออกจากบ้านมาผสมพันธุ์หรือหากินแล้วโดนพายุฝนซัดผลัดตก จากหลังคามาตายในบ้านชาวบ้าน ต.เทพคีรี ซึ่งยืนยันว่าจะเก็บรักษาซากเอาไว้บูชาต่อไปเพราะเป็นสิ่งดี จากกรณี ชาวบ้านวังสามหาบ ต.เทพคีรี อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู แจ้งว่าพบซากสัตว์ประหลาด รูปร่างคล้ายค้างคาวผสมสุนัขและแมว ผิวหนังคล้ายมนุษย์ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 8 บ้านวังสามหาบ ต.เทพคีรี ส่งผลให้ชาวบ้านแตกตื่นแห่พิสูจน์ด้วยตาตัวเอง บางกลุ่มถือโอกาสจุดธูปเทียนบูชาขอเลขเด็ดนำโชค ขณะที่ตำรวจสภ.นาวัง ยอมรับว่า มีสัตว์รูปร่างหน้าตาประหลาดจริงที่บ้านหลังดังกล่าว ตามข่าวที่เสนอก่อนหน้านี้ ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีชาวบ้านจำนวนมากทยอยเดินทางดูซากสัตว์ประหลาดตลอดทั้งวัน ซึ่งนางแสงเดือน แสนพุ เจ้าของบ้านนำซากสัตว์ดังกล่าวใส่ไว้ในถาดเหมือนเมื่อวานนี้ แต่ล่าสุดมีสภาพเริ่มย่อยสลาย จึงให้คนมาฉีดสารฟอร์มาลินเพื่อป้องกันการเน่าเปื่อย แต่ผิวหนังของสัตว์เริ่มลอกออกแล้ว โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า นายเจษฎา แสนประสิทธิ์ ปศุสัตว์อำเภอนาวัง ซึ่งเดินทางมาตรวจดูซากสัตว์ที่บ้านนางแสงเดือนอย่างละเอียด กล่าวว่า เมื่อพิจารณาแล้วสันนิษฐานได้เป็น 2 กรณี คือ อาจเป็นสุนัขชิวาว่า สายพันธุ์ไม่มีขน หรืออาจเป็นแมวไม่มีขน ชื่อแมวพันธุ์ "สฟิงซ์" ซึ่งไม่ใช่แมวพื้นถิ่นของประเทศไทย เบื้องต้นเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่สัตว์ดังกล่าวจะเป็นแมวสฟิงซ์มากกว่า เพราะเมื่อมองดูจากซาก รวมทั้งดูภาพสรีระ สัดส่วน หน้าตา โครงร่างคล้ายกันมาก เพียงแต่ต้องตรวจสอบกันต่อไปว่ามาตายอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้อย่างไร เพราะแมวพันธุ์สฟิงซ์มีราคาแพงถึงตัวละ 15,000-25,000 บาท ส่วนใหญ่มักเป็นสัตว์เลี้ยงของคนมีฐานะดี และในหมู่บ้านคงไม่มีใครซื้อมาเลี้ยง หรือหากมีคนซื้อมาเลี้ยงจริงน่าจะต้องรู้กันทั้งหมู่บ้าน นายเจษฎา ระบุด้วยว่า หากสัตว์ดังกล่าวเป็นแมวสฟิงซ์จริงต้องมีเจ้าของ โดยอาจเป็นได้ที่เจ้าของเป็นชาวต่างชาติ หรือคนไทยที่มีสามีเป็นชาวต่างชาติ และซื้อแมวสฟิงซ์มาเลี้ยง แต่แมวอาจหนีออกจากบ้านมาผสมพันธุ์ หรือออกหากินตามธรรมชาติ ต่อมาโชคร้ายเจอกับพายุฝนขณะที่ปีนอยู่บนหลังคาบ้านข้างเคียง เมื่อฝนตกหนักจึงกระโดดหนีไปที่หลังคาบ้านของนางแสงเดือนแล้วพลัดตกลงมาได้ รับบาดเจ็บจึงหลบเข้าไปซ่อนตัวใต้ตู้กับข้าวภายในบ้าน กระทั่งรุ่งเช้ามีคนมาพบแมวสฟิงซ์ตัวนี้ในสภาพเจ็บหนักและตายในที่สุด ส่วนที่ชาวบ้านสงสัยว่าเป็นสัตว์ประหลาด เพราะคนในพื้นที่ไม่เคยพบมาก่อน ทำให้กลายเป็นจุดสนใจ มีชาวบ้านแห่มาดูมากมาย ด้านนางแสงเดือน กล่าวว่า จะเก็บซากสัตว์ประหลาดเอาไว้ในบ้านต่อไป โดยจะประแป้งจัดหิ้งไว้ให้กราบไหว้ภายในบ้านจนกว่าจะเน่าเปื่อย ส่วนใครจะว่าเป็นอะไรตนไม่ว่า แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นสิ่งดี และจะไม่ให้ใครเอาไปผ่าพิสูจน์ว่าเป็นอะไรอีก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้นำภาพแมวสฟิงซ์ให้นางแสงเดือนดูเปรียบเทียบ และได้คำตอบกลับมาว่า "ก็บอกแล้วแต่ใครจะว่าเป็นสัตว์อะไรก็ช่าง" นอกจากนั้น ยังมีชาวบ้านทั้งในจังหวัดหนองบัวลำภูและต่างจังหวัดที่ทราบข่าวต่างพากัน เดินทางดูซากสัตว์คล้ายแมวสฟิงซ์อย่างไม่ขาดสาย (กรอบบ่าย)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Back to Top